คดีรถบรรทุกชนซ้ำ: สอบสวน 9 วันผ่านไป

ภาพจากกล้องหน้ารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะชน
ภาพจากกล้องหน้ารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะชนภาพจากกล้องหน้ารถบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะชน

ตำรวจเมืองเบียนฮวา มีความเคลื่อนไหวล่าสุด หลังควบคุมตัว นายโด๋ มินห์ ตัน คนขับรถบรรทุก เป็นเวลา 9 วัน เพื่อสอบสวนอุบัติเหตุจราจรที่น่าสลดใจ ซึ่งทำให้ชายวัย 38 ปีเสียชีวิตบนทางหลวงหมายเลข 51 คดีนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้เสียชีวิตถูกรถบรรทุกทับถึง 2 ครั้ง

ลำดับเหตุการณ์อุบัติเหตุน่าสลดใจ

เมื่อเที่ยงวันที่ 28 สิงหาคม ท่ามกลางฝนตกหนัก นายโต๋ ฮว่าง ยุง (อายุ 38 ปี) ขี่รถจักรยานยนต์บนทางหลวงหมายเลข 51 จากบ่าเหรีย-หวุงเต่า มุ่งหน้าไปยังนครโฮจิมินห์ เมื่อถึงบริเวณหน้าปั๊มน้ำมันวีว่า ใน phường Phúc Tân เมืองเบียนฮวา นายยุงได้ชนกับรถบรรทุกที่นายตันขับ ซึ่งกำลังเลี้ยวขวาเข้าปั๊มน้ำมัน

ภาพจากกล้องหน้ารถแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่รถบรรทุกชนผู้เสียชีวิต
ภาพจากกล้องหน้ารถแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่รถบรรทุกชนผู้เสียชีวิตภาพจากกล้องหน้ารถแสดงให้เห็นช่วงเวลาที่รถบรรทุกชนผู้เสียชีวิต

กล้องหน้ารถยนต์ที่ขับตามหลังมา บันทึกภาพเหตุการณ์น่าสยดสยองไว้ได้: นายยุงล้มลงบนถนน และถูกล้อหน้ารถบรรทุกทับร่าง จากนั้น ที่น่าตกใจคือ หลังจากรถบรรทุกหยุดไปประมาณ 5 วินาที รถก็เคลื่อนตัวไปข้างหน้าอีกครั้ง ทำให้ล้อหลังทับร่างผู้เคราะห์ร้ายซ้ำเป็นครั้งที่สอง

ตั้งข้อหาคนขับรถ ข้อหาฝ่าฝืนกฎจราจร

ทันทีหลังเกิดอุบัติเหตุ ผู้บังคับบัญชาตำรวจภูธรจังหวัดด่งนาย สั่งการให้เจ้าหน้าที่รวบรวมหลักฐาน และเร่งสอบสวนพฤติกรรมของนายตัน ว่ามีข้อบ่งชี้ถึงความผิดฐาน “ฆ่าคนตาย” หรือไม่ พนักงานสอบสวนได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด จำลองเหตุการณ์ ณ จุดเกิดเหตุ และสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ มีหลักฐานเพียงพอที่จะแจ้งข้อกล่าวหาแก่นายตัน ในข้อหา “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” ซึ่งเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก

สอบสวนรอบด้านเพื่อไขข้อเท็จจริง

คดีคนขับรถบรรทุกถูกกล่าวหาว่าชนผู้เสียชีวิตถึง 2 ครั้ง กำลังเป็นที่สนใจของประชาชน และเกิดคำถามมากมายเกี่ยวกับสาเหตุของอุบัติเหตุ รวมถึงความรับผิดชอบของคนขับ ขณะนี้ เจ้าหน้าที่กำลังเร่งสอบสวนอย่างละเอียดรอบด้าน เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และดำเนินการตามกฎหมายอย่างยุติธรรม การสอบสวนอย่างละเอียดถี่ถ้วนนี้ ไม่เพียงแต่จะนำความยุติธรรมมาสู่ผู้เสียชีวิตเท่านั้น แต่ยังมีส่วนสำคัญในการยกระดับจิตสำนึกด้านความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นซ้ำรอย

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *