ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก: คู่มือฉบับสมบูรณ์และอัปเดตล่าสุดปี 2024

ปัจจุบัน เจ้าของรถบรรทุกจำนวนมากยังคงสงสัยเกี่ยวกับการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกเมื่อทำการซื้อขายหรือโอนกรรมสิทธิ์ ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้มั่นใจในสิทธิประโยชน์ทางกฎหมายของทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย บทความนี้จาก Xe Tải Mỹ Đình จะให้ข้อมูลรายละเอียดและครบถ้วนที่สุดเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก ช่วยให้คุณดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

I. ทำไมต้องโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก?

การโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกไม่ได้เป็นเพียงขั้นตอนการบริหารเท่านั้น แต่ยังให้ประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมแก่เจ้าของรถอีกด้วย นี่คือเหตุผลหลักที่คุณต้องดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก:

  • ความสะดวกในการทำธุรกรรมทางกฎหมาย: เมื่อรถบรรทุกได้รับการโอนกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว คุณจะสามารถทำธุรกรรมทางกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินนี้ได้อย่างง่ายดาย เช่น สัญญากู้ยืม จำนอง การซื้อขาย การให้ การสืบทอด… โดยไม่มีอุปสรรคทางกฎหมาย
  • หลีกเลี่ยงค่าปรับย้อนหลังและปัญหาทางกฎหมาย: ตามพระราชกฤษฎีกา 100/2019/NĐ-CP การไม่โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์หลังจากการโอนกรรมสิทธิ์อาจทำให้เจ้าของเดิมยังคงต้องรับผิดชอบทางกฎหมายและค่าปรับย้อนหลังที่เกิดจากรถ การโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงความยุ่งยากเหล่านี้และมั่นใจได้ว่าคุณจะไม่ถูกปรับอย่างไม่เป็นธรรมเนื่องจากการกระทำของเจ้าของใหม่ ค่าปรับสำหรับการไม่โอนกรรมสิทธิ์รถยนต์อาจอยู่ที่ 2-4 ล้านดองสำหรับบุคคลทั่วไป และ 4-8 ล้านดองสำหรับองค์กรและธุรกิจ
  • สนับสนุนหน่วยงานราชการ: ในกรณีที่รถบรรทุกถูกขโมยหรือเกี่ยวข้องกับคดีทางกฎหมาย การโอนกรรมสิทธิ์ช่วยให้หน่วยงานราชการสามารถระบุเจ้าของตามกฎหมายและติดต่อเพื่อสอบสวนและแก้ไขได้ง่ายขึ้น สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับรถบรรทุก ซึ่งเป็นยานพาหนะที่มักจะวิ่งในระยะทางไกลและมีความเสี่ยงมากมาย
  • การจัดการและการติดตามความรับผิดชอบ: ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับเจ้าของรถบรรทุกช่วยให้หน่วยงานราชการจัดการยานพาหนะได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และยังง่ายต่อการติดตามความรับผิดชอบเมื่อผู้ขับขี่รถยนต์ก่อให้เกิดอุบัติเหตุหรือละเมิดกฎจราจร สิ่งนี้มีส่วนช่วยในการรักษาความสงบเรียบร้อยและความปลอดภัยในการจราจรและสิทธิของชุมชน

เหตุผลที่ต้องโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกเมื่อมีการโอนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางกฎหมายเหตุผลที่ต้องโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกเมื่อมีการโอนสิทธิ์ความเป็นเจ้าของเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางกฎหมาย

II. เอกสารและหลักฐานที่จำเป็นเมื่อโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก

เพื่อให้ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกเป็นไปอย่างราบรื่น คุณต้องเตรียมเอกสารและหลักฐานให้ครบถ้วนตามข้อกำหนด ด้านล่างนี้คือรายการเอกสารที่จำเป็น ตามหนังสือเวียน 58/2020/TT-BCA:

เอกสารที่ต้องเตรียม:

  1. ทะเบียนรถบรรทุก: ต้นฉบับ ตามแบบฟอร์มที่กำหนด
  2. สมุดตรวจสภาพรถบรรทุก: ต้นฉบับที่ยังมีผลบังคับใช้
  3. ประกันภัยรถบรรทุก (ถ้ามี): ไม่บังคับ แต่ควรมีเพื่อให้แน่ใจว่าได้รับสิทธิประโยชน์เมื่อเกิดเหตุการณ์
  4. เอกสารประจำตัวของฝั่งผู้ขายและผู้ซื้อ:
    • สำหรับบุคคลทั่วไป: บัตรประจำตัวประชาชน (CMND) หรือบัตรประจำตัวประชาชน (CCCD) และสำเนาทะเบียนบ้าน (ต้นฉบับหรือสำเนาที่รับรอง)
    • สำหรับองค์กรและธุรกิจ: ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ, การตัดสินใจจัดตั้ง (สำเนาที่รับรอง) และ CMND/CCCD ของผู้แทนทางกฎหมาย
  5. เอกสารยืนยันสิทธิ์ความเป็นเจ้าของรถ: สัญญาซื้อขายรถบรรทุก (มีการรับรองเอกสารหรือรับรอง), เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์, การให้ (ถ้ามี)
  6. หนังสือปลดจำนองจากธนาคาร (ถ้ารถบรรทุกอยู่ภายใต้การจำนอง): ยืนยันว่าได้ชำระภาระผูกพันทางการเงินกับธนาคารแล้วและได้รับการปลดจำนอง
  7. แบบฟอร์มค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน: ตามแบบฟอร์มของหน่วยงานภาษี

หมายเหตุ:

  • ขึ้นอยู่กับแต่ละกรณีและข้อกำหนดของท้องถิ่น อาจต้องใช้เอกสารเพิ่มเติม คุณควรติดต่อหน่วยงานทะเบียนรถก่อนเพื่อขอคำแนะนำโดยละเอียด
  • เอกสารต้องยังมีผลบังคับใช้และข้อมูลต้องถูกต้องและตรงกัน

รายการเอกสารและหลักฐานที่จำเป็นเมื่อดำเนินการตามขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกรายการเอกสารและหลักฐานที่จำเป็นเมื่อดำเนินการตามขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก

III. ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกโดยละเอียดตามข้อกำหนด

ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกอาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับการโอนกรรมสิทธิ์ในจังหวัด/เมืองเดียวกันหรือต่างจังหวัด ด้านล่างนี้เป็นคำแนะนำโดยละเอียดสำหรับแต่ละกรณี:

1. ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกในจังหวัด/เมืองเดียวกัน

หากผู้ขายและผู้ซื้อรถบรรทุกมีทะเบียนบ้านอยู่ในจังหวัด/เมืองเดียวกัน ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์จะง่ายกว่าและรวมถึงขั้นตอนต่อไปนี้:

ขั้นตอนที่ 1: รับรองสัญญาซื้อขายรถบรรทุก

  • ทั้งสองฝ่าย (ผู้ขายและผู้ซื้อ) ไปที่สำนักงานรับรองเอกสารเพื่อจัดทำและรับรองสัญญาซื้อขายรถบรรทุก
  • เตรียมเอกสารประจำตัวและเอกสารที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุกให้ครบถ้วน
  • สำนักงานรับรองเอกสารจะยืนยันความถูกต้องตามกฎหมายของสัญญา

ขั้นตอนที่ 2: ชำระภาษีการจดทะเบียน

  • ผู้ซื้อรถบรรทุกไปที่กรมสรรพากรประจำอำเภอ/เขตที่พำนักเพื่อยื่นแบบฟอร์มค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนและเอกสารที่เกี่ยวข้อง
  • หน่วยงานภาษีจะคำนวณและแจ้งจำนวนเงินภาษีการจดทะเบียนที่ต้องชำระ
  • ชำระภาษีการจดทะเบียนที่ธนาคารหรือคลังของรัฐและเก็บใบเสร็จการชำระภาษีไว้

ขั้นตอนที่ 3: ยื่นเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่สถานีตำรวจ

  • ไปที่สำนักงานตำรวจจราจร (CSGT) ของตำรวจจังหวัด/เมืองหรือจุดทะเบียนรถที่ได้รับมอบอำนาจเพื่อยื่นเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก
  • เอกสารประกอบด้วย: ทะเบียนรถ (ต้นฉบับ), สมุดตรวจสภาพรถ (ต้นฉบับ), สัญญาซื้อขายรถที่รับรองแล้ว, เอกสารประจำตัวของผู้ซื้อ, ใบเสร็จชำระภาษีการจดทะเบียน

ขั้นตอนที่ 4: ชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์

  • ชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ตามข้อกำหนดที่สถานีตำรวจ

ขั้นตอนที่ 5: รับใบนัดหมายและหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถใหม่

  • เจ้าหน้าที่ที่รับเอกสารจะตรวจสอบและออกใบนัดหมายการคืนผล
  • ในวันที่นัดหมาย นำใบนัดหมายและใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมเพื่อรับหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถบรรทุกในชื่อเจ้าของใหม่
  • ทะเบียนรถมักจะยังคงเดิมหากโอนกรรมสิทธิ์ในจังหวัดเดียวกัน

2. ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกต่างจังหวัด/เมือง

ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกต่างจังหวัดมีความซับซ้อนกว่าเล็กน้อย ต้องมีขั้นตอนการถอนเอกสารต้นฉบับเพิ่มเติม กระบวนการประกอบด้วยขั้นตอนต่อไปนี้:

ขั้นตอนที่ 1: รับรองสัญญาซื้อขายรถบรรทุก (เช่นเดียวกับกรณีการโอนกรรมสิทธิ์ในจังหวัดเดียวกัน)

ขั้นตอนที่ 2: ชำระภาษีการจดทะเบียน (เช่นเดียวกับกรณีการโอนกรรมสิทธิ์ในจังหวัดเดียวกัน ชำระที่ที่อยู่ของผู้ซื้อ)

ขั้นตอนที่ 3: ถอนเอกสารต้นฉบับรถบรรทุก

  • ผู้ขายรถบรรทุกไปที่สำนักงานตำรวจจราจรของตำรวจจังหวัด/เมืองที่ได้จดทะเบียนรถไว้ก่อนหน้านี้เพื่อดำเนินการถอนเอกสารต้นฉบับ
  • เอกสารการถอนต้นฉบับประกอบด้วย: ทะเบียนรถ (ต้นฉบับ), สมุดตรวจสภาพรถ (ต้นฉบับ), CMND/CCCD ของผู้ขาย, หนังสือมอบอำนาจ (ถ้ามี)
  • สถานีตำรวจจะตรวจสอบรถและดำเนินการถอนเอกสารต้นฉบับคืนให้ผู้ขาย

ขั้นตอนที่ 4: ยื่นเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนรถใหม่

  • ผู้ซื้อรถบรรทุกนำเอกสารต้นฉบับที่ถอนออกมาแล้ว เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ (เช่นเดียวกับกรณีการโอนกรรมสิทธิ์ในจังหวัดเดียวกัน) ไปที่สำนักงานตำรวจจราจรของตำรวจจังหวัด/เมืองที่พำนักเพื่อดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์และจดทะเบียนรถใหม่
  • สถานีตำรวจจะตรวจสอบเอกสาร ขูดหมายเลขตัวถัง หมายเลขเครื่องยนต์ และดำเนินการจดทะเบียนรถ

ขั้นตอนที่ 5: ชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถและรับทะเบียนใหม่ ใบนัดหมาย

  • ชำระค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนรถใหม่และรับทะเบียนรถบรรทุกใหม่ (ถ้าเปลี่ยนทะเบียนจังหวัด)
  • รับใบนัดหมายการคืนผลการจดทะเบียนรถ

ขั้นตอนที่ 6: รับหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถใหม่

  • ในวันที่นัดหมาย นำใบนัดหมายและใบเสร็จชำระค่าธรรมเนียมเพื่อรับหนังสือรับรองการจดทะเบียนรถบรรทุกในชื่อเจ้าของใหม่
  • ดำเนินการตรวจสภาพรถบรรทุกอีกครั้งด้วยทะเบียนใหม่ (ถ้าจำเป็น)

ขั้นตอนการดำเนินการตามขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกขั้นตอนการดำเนินการตามขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก

3. ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกจากบริษัทไปยังบุคคล/บริษัทอื่น

ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกจากบริษัทไปยังบุคคลหรือบริษัทอื่นมีความแตกต่างกันเล็กน้อยในเรื่องเอกสารเนื่องจากเกี่ยวข้องกับนิติบุคคลของบริษัท

เอกสารฝั่งผู้ขาย (บริษัท):

  • ทะเบียนรถและสมุดตรวจสภาพรถบรรทุก
  • ใบอนุญาตประกอบธุรกิจของบริษัท (สำเนาที่รับรอง)
  • บันทึกการประชุมคณะกรรมการบริษัท/คณะกรรมการบริหารเกี่ยวกับการชำระบัญชีหรือขายรถยนต์ (หากเป็นบริษัทมหาชนจำกัดหรือบริษัทจำกัดที่มีสมาชิกตั้งแต่สองคนขึ้นไป)
  • การตัดสินใจชำระบัญชี/ขายรถบรรทุกที่ได้รับการรับรองเอกสารหรือรับรอง (ถ้ามี)
  • สัญญาซื้อขายรถบรรทุก
  • ใบกำกับภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ที่บริษัทออกตามมูลค่าสัญญา
  • หนังสือรับรองการจดทะเบียนตัวอย่างตราประทับของบริษัท
  • ประกาศการเปลี่ยนแปลงชื่อ/ที่อยู่/ตัวอย่างตราประทับ…ของบริษัท (ถ้ามี)

เอกสารฝั่งผู้ซื้อ (บุคคลหรือบริษัท):

  • สำหรับบุคคลทั่วไป: CMND/CCCD, สำเนาทะเบียนบ้าน, ทะเบียนสมรสหรือหนังสือรับรองสถานภาพการสมรส
  • สำหรับบริษัท: ใบอนุญาตประกอบธุรกิจ (สำเนาที่รับรอง), CMND/CCCD ของผู้แทนทางกฎหมาย

ขั้นตอนการดำเนินการ:

  • เช่นเดียวกับขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกต่างจังหวัด บริษัทที่ขายจะต้องดำเนินการถอนเอกสารต้นฉบับ ณ สถานที่จดทะเบียนรถเดิม
  • ผู้ซื้อ (บุคคล/บริษัท) ดำเนินการตามขั้นตอนการชำระภาษีการจดทะเบียนและจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ที่สถานีตำรวจในสถานที่พำนัก/ตั้งสำนักงาน

IV. ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก

เมื่อดำเนินการตามขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก คุณต้องเตรียมค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้:

  1. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียน:

    • คำนวณตามมูลค่าคงเหลือของรถบรรทุกและอัตราค่าธรรมเนียมตามข้อกำหนดของท้องถิ่น (โดยปกติคือ 2% ของมูลค่ารถที่ใช้แล้ว)
    • มูลค่ารถเก่าจะถูกกำหนดตามระยะเวลาการใช้งานและอัตราส่วนร้อยละของมูลค่ารถใหม่ประเภทเดียวกัน ตัวอย่าง: รถยนต์ที่ใช้งาน 1-3 ปี: 70% ของมูลค่ารถใหม่; 3-6 ปี: 50%; 6-10 ปี: 30%; มากกว่า 10 ปี: 20%
  2. ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์:

    • ตามหนังสือเวียน 53/2015/TT-BTC ค่าธรรมเนียมการจดทะเบียนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ (รวมถึงการออกทะเบียนใหม่ถ้ามี) จะแตกต่างกันไปตามพื้นที่และประเภทยานพาหนะ
    • ในฮานอยและโฮจิมินห์ซิตี้ ค่าธรรมเนียมการออกทะเบียนใหม่คือ 150,000 – 500,000 ดอง จังหวัดและเมืองอื่น ๆ มีค่าธรรมเนียมที่ต่ำกว่า
    • หากโอนกรรมสิทธิ์และเก็บทะเบียนเดิมไว้ (ในจังหวัดเดียวกัน) ค่าธรรมเนียมมักจะอยู่ที่ประมาณ 50,000 ดองเท่านั้น
  3. ค่าธรรมเนียมการรับรองสัญญาซื้อขายรถยนต์:

    • คำนวณตามเปอร์เซ็นต์ของมูลค่ารถ ขึ้นอยู่กับตารางค่าธรรมเนียมของแต่ละสำนักงานรับรองเอกสาร
  4. ค่าธรรมเนียมการตรวจสอบทางศุลกากร (ถ้ารถบรรทุกนำเข้า):

    • ใช้เฉพาะกับรถบรรทุกนำเข้า ประมาณ 1 ล้านดอง/คัน

หมายเหตุ: ค่าธรรมเนียมอาจมีการเปลี่ยนแปลงตามกฎหมายและข้อกำหนดของแต่ละท้องถิ่น คุณควรปรับปรุงข้อมูลล่าสุดจากหน่วยงานราชการก่อนดำเนินการตามขั้นตอน

สรุปประเภทค่าใช้จ่ายเมื่อจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกสรุปประเภทค่าใช้จ่ายเมื่อจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก

สรุป:

บทความข้างต้นจาก Xe Tải Mỹ Đình ได้ให้ข้อมูลที่ครบถ้วนเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก ตั้งแต่เหตุผลที่จำเป็น เอกสาร ขั้นตอนการดำเนินการ ไปจนถึงค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง การทำความเข้าใจขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุกเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการปกป้องสิทธิประโยชน์และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงทางกฎหมายเมื่อซื้อขายหรือโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก

หากคุณมีความต้องการซื้อขายรถบรรทุกหรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถยนต์ โปรดติดต่อ Xe Tải Mỹ Đình ทันทีเพื่อรับการสนับสนุนที่ดีที่สุด เราพร้อมที่จะร่วมเดินทางไปกับคุณในทุกการเดินทาง!

ติดต่อ Xe Tải Mỹ Đình:

  • สายด่วนให้คำปรึกษา: 1800 1524 – 0916 001 524
  • อีเมล CSKH: [email protected]

>>> ดูเพิ่มเติม:

Tag: [ขั้นตอนการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก], [โอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก], [เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก], [ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก], [เอกสารการโอนกรรมสิทธิ์รถบรรทุก]

สำรวจเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Xe Tải Mỹ Đình ได้ที่:

Facebook | Youtube | Instagram

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *