เลือกยางรถบรรทุกให้เหมาะ: คู่มือรับน้ำหนักและเคล็ดลับ

เมื่อสังเกตพื้นผิวยางรถยนต์อย่างละเอียด คุณจะเห็นสัญลักษณ์และข้อมูลจำเพาะต่างๆ มากมาย นอกเหนือจากยี่ห้อ รุ่น ขนาด หรือปีที่ผลิต หนึ่งในนั้นคือดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์ ซึ่งมักแสดงด้วยตัวเลข เช่น 91, 121,… พร้อมกับตัวอักษร ดังนั้น ดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์คืออะไร และมีความหมายอย่างไรต่อรถของคุณ? มาเรียนรู้รายละเอียดกับ Xe Tải Mỹ Đình ในบทความด้านล่างนี้

ดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์ (Load Index) คืออะไร?

ดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์ (Load Index) เป็นข้อมูลทางเทคนิคที่สำคัญ ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการรับน้ำหนักสูงสุดของยางแต่ละเส้น เมื่อรถวิ่งด้วยความเร็วที่ปลอดภัยตามข้อกำหนดของผู้ผลิต กล่าวอีกนัยหนึ่ง ดัชนีนี้แสดงถึงน้ำหนักสูงสุดที่ยางแต่ละเส้นสามารถรับได้

เพื่อให้ง่ายต่อการจินตนาการ ลองนึกภาพยางรถยนต์เหมือนเท้าของรถบรรทุก แต่ละ “ก้าว” (การหมุนของยาง) ต้องรับน้ำหนักส่วนหนึ่งของรถทั้งคันและสินค้า ดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์ช่วยให้มั่นใจได้ว่า “เท้า” เหล่านี้แข็งแรงพอที่จะ “ก้าว” อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

สำหรับรถบรรทุกและรถเพื่อการพาณิชย์ ดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์มีความสำคัญเป็นพิเศษ เนื่องจากต้องขนส่งสินค้าหนักเป็นประจำ การเลือกยางที่มีดัชนีรับน้ำหนักที่เหมาะสมช่วยให้มั่นใจถึงความปลอดภัยในการใช้งาน หลีกเลี่ยงสถานการณ์น้ำหนักเกิน ซึ่งนำไปสู่ความเสียหายของยาง หรืออุบัติเหตุร้ายแรงอื่นๆ

ตารางตรวจสอบดัชนีรับน้ำหนักยางรถยนต์ที่ละเอียดที่สุด

เพื่อให้ทราบแน่ชัดว่าดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์สอดคล้องกับน้ำหนักกี่กิโลกรัม คุณสามารถอ้างอิงตารางการแปลงมาตรฐานสากลด้านล่างนี้:

Load Index Kg Load Index Kg Load Index Kg Load Index Kg Load Index Kg
51 195 76 400 101 825 126 1700 151 3450
52 200 77 412 102 850 127 1750 152 3550
53 206 78 425 103 875 128 1800 153 3650
54 212 79 437 104 900 129 1850 154 3750
55 218 80 450 105 925 130 1900 155 3875
56 224 81 462 106 950 131 1950 156 4000
57 230 82 475 107 975 132 2000 157 4125
58 236 83 487 108 1000 133 2060 158 4250
59 243 84 500 109 1030 134 2120 159 4375
60 250 85 515 110 1060 135 2180 160 4500
61 257 86 530 111 1090 136 2240 161 4625
62 265 87 545 112 1120 137 2300 162 4750
63 272 88 560 113 1150 138 2360 163 4875
64 280 89 580 114 1180 139 2430 164 5000
65 290 90 600 115 1215 140 2500 165 5150
66 300 91 615 116 1250 141 2575 166 5300
67 307 92 630 117 1285 142 2650 167 5450
68 315 93 650 118 1320 143 2725 168 5600
69 325 94 670 119 1360 144 2800 169 5800
70 335 95 690 120 1400 145 2900 173 6000
71 345 96 710 121 1450 146 3000 171 6150
72 355 97 730 122 1500 147 3075 172 6300
73 365 98 750 123 1550 148 3150 173 6500
74 375 99 775 124 1600 149 3250 174 6700
75 387 100 800 125 1650 150 3350 175 6900
176 7100
177 7300
178 7500
179 7750
180 8000
181 8250
182 8500
183 8750
184 9000
185 9250
186 9500
187 9750
188 10000
189 10300
190 10600
191 10900
192 11200
193 11500
194 11800
195 12150
196 12500
197 12850
198 13200
199 13600
200 14000
201 14500
202 15000
203 15500
204 16000
205 16500
206 17000
207 17500
208 18000
209 18500
210 19000
211 19500
212 20000
213 20600
214 21200
215 21800
216 22400
217 23000
218 23600
219 24300
220 25000
221 25750
222 26500
223 27250
224 28000
225 29000
226 30000
227 30750
228 31500
229 32500
230 33500
231 34500
232 35500
233 36500
234 37500
235 38750
236 40000
237 41250
238 42500
239 43750
240 45000
241 46250
242 47500
243 48750
244 50000
245 51500
246 53000
247 54500
248 56000
249 58000
250 60000

ตารางการแปลงข้างต้นช่วยให้คุณระบุน้ำหนักบรรทุกสูงสุดที่ยางรถยนต์สามารถรับได้ง่ายขึ้น โดยอิงตามดัชนีรับน้ำหนักที่พิมพ์บนแก้มยาง โปรดทราบว่านี่คือน้ำหนักบรรทุกสำหรับยางแต่ละเส้น ดังนั้น คุณต้องคูณด้วยจำนวนยางรถยนต์ เพื่อคำนวณน้ำหนักบรรทุกรวมที่รถสามารถบรรทุกได้

ทำไมต้องใส่ใจกับน้ำหนักบรรทุกของยางรถยนต์?

การทำความเข้าใจและปฏิบัติตามดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์ มีประโยชน์ที่สำคัญหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรถบรรทุกและรถยนต์ที่บรรทุกสินค้าเป็นประจำ:

  • มั่นใจในความปลอดภัย: การบรรทุกน้ำหนักเกินที่อนุญาต เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้ยางระเบิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรถวิ่งในระยะทางไกล หรือในสภาพอากาศร้อน ยางระเบิดอาจนำไปสู่การสูญเสียการควบคุม ทำให้เกิดอันตรายต่อผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร และยานพาหนะรอบข้าง
  • เพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน: ยางรถยนต์ที่ทำงานภายใต้สภาวะน้ำหนักบรรทุกที่เหมาะสม จะช่วยให้มั่นใจถึงความทนทาน ลดการสึกหรอที่ไม่สม่ำเสมอ ช่วยให้รถวิ่งได้อย่างราบรื่น และประหยัดน้ำมันมากขึ้น
  • ปฏิบัติตามกฎหมาย: การบรรทุกน้ำหนักเกิน ไม่เพียงแต่เป็นอันตราย แต่ยังละเมิดกฎหมายจราจร ซึ่งนำไปสู่การถูกลงโทษทางปกครอง
  • ปกป้องสิทธิประโยชน์ด้านการประกัน: ในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุที่เกี่ยวข้องกับยางรถยนต์ เนื่องจากการบรรทุกน้ำหนักเกิน บริษัทประกันภัยอาจปฏิเสธการชดเชย

ตารางแสดงดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์และน้ำหนักที่สอดคล้องกัน ช่วยให้ผู้ใช้เลือกยางที่เหมาะสมกับความต้องการในการรับน้ำหนักได้ง่ายตารางแสดงดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์และน้ำหนักที่สอดคล้องกัน ช่วยให้ผู้ใช้เลือกยางที่เหมาะสมกับความต้องการในการรับน้ำหนักได้ง่าย

คำแนะนำในการเลือกยางรถบรรทุกตามน้ำหนักบรรทุก

เมื่อเลือกยางรถบรรทุกหรือรถเพื่อการพาณิชย์ สิ่งสำคัญอันดับแรกคือการเลือกยางที่มีดัชนีรับน้ำหนักที่เหมาะสม หรือสูงกว่าน้ำหนักบรรทุกจริงของรถเล็กน้อย ด้านล่างนี้คือขั้นตอนที่คุณสามารถอ้างอิงได้:

  1. กำหนดน้ำหนักบรรทุกสูงสุดของรถ: อ้างอิงจากสมุดทะเบียนรถ หรือข้อมูลจำเพาะทางเทคนิคของรถ เพื่อทราบน้ำหนักรวมของรถ และน้ำหนักสินค้าที่อนุญาต
  2. คำนวณการกระจายน้ำหนักบรรทุกบนยางแต่ละเส้น: หารน้ำหนักรวมของรถด้วยจำนวนยาง (โดยทั่วไปคือ 4 หรือ 6 เส้น) โปรดทราบว่าการกระจายน้ำหนักบรรทุก อาจไม่เท่ากันระหว่างยางหน้าและยางหลัง
  3. เลือกยางที่มีดัชนีรับน้ำหนักที่สอดคล้องกัน หรือสูงกว่า: อ้างอิงจากตารางการแปลงดัชนีรับน้ำหนัก เลือกยางที่มีความสามารถในการรับน้ำหนัก อย่างน้อยเท่ากับ หรือมากกว่าน้ำหนักบรรทุกที่กระจายบนยางแต่ละเส้น
  4. ให้ความสำคัญกับยางจากแบรนด์ที่มีชื่อเสียง: ยางของแบรนด์ใหญ่ๆ มักจะรับประกันคุณภาพและความทนทาน ช่วยให้คุณมั่นใจมากขึ้นเมื่อใช้งานรถ
  5. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ: หากคุณยังลังเล ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านยางรถยนต์ หรือศูนย์บริการรถบรรทุกที่มีชื่อเสียง เพื่อรับคำแนะนำและเลือกยางที่เหมาะสมที่สุด

ข้อควรจำที่สำคัญเกี่ยวกับน้ำหนักบรรทุกของยางรถยนต์และข้อมูลจำเพาะที่เกี่ยวข้อง

นอกเหนือจากดัชนีรับน้ำหนักของยางรถยนต์แล้ว คุณยังต้องใส่ใจกับข้อมูลจำเพาะอื่นๆ เพื่อให้มั่นใจถึงความปลอดภัยและประสิทธิภาพการทำงานที่เหมาะสม:

  • ดัชนีความเร็วของยางรถยนต์: บ่งบอกถึงความเร็วสูงสุดที่ยางรถยนต์สามารถวิ่งได้อย่างปลอดภัย เมื่อรับน้ำหนักบรรทุกสูงสุด ควรเลือกยางที่มีดัชนีความเร็วที่เหมาะสมกับความเร็วในการวิ่งปกติของรถ
  • ขนาดยาง: เลือกขนาดยางที่ถูกต้องตามคำแนะนำของผู้ผลิตรถยนต์ เพื่อให้มั่นใจถึงความสามารถในการขับขี่และความปลอดภัย
  • แรงดันลมยาง: รักษาระดับแรงดันลมยางให้ถูกต้องตามคำแนะนำเสมอ เพื่อให้มั่นใจว่ายางทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด ตรวจสอบแรงดันลมยางเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งก่อนการเดินทางไกลแต่ละครั้ง
  • ตรวจสอบและบำรุงรักษายางเป็นประจำ: ตรวจสอบสภาพยางเป็นประจำ รวมถึงการสึกหรอ รอยแตก รอยบวม… และทำการบำรุงรักษา เปลี่ยนยางเมื่อจำเป็น

สรุป:

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับน้ำหนักบรรทุกของยางรถยนต์ และการเลือกยางที่เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญในการรับประกันความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความทนทานสำหรับรถบรรทุกของคุณ Xe Tải Mỹ Đình หวังว่าบทความนี้จะให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ซึ่งจะช่วยให้คุณตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดเมื่อเลือกยางรถยนต์ หากคุณมีคำถามใดๆ หรือต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม โปรดอย่าลังเลที่จะติดต่อเรา เพื่อรับการสนับสนุนที่ดีที่สุด

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *