เกือบเกิดเหตุ! เมอร์เซเดสหวิดชนรถบรรทุก: บทเรียนขับขี่ปลอดภัยทางแยก

เหตุการณ์หวาดเสียวที่เกือบกลายเป็นอุบัติเหตุร้ายแรงระหว่างรถเมอร์เซเดสและรถบรรทุก เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน บนถนนหมายเลข 36 อำเภอวินห์เตือง จังหวัดวินห์ฟุก วิดีโอเหตุการณ์ระทึกขวัญนี้ถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็วบนโซเชียลมีเดีย ก่อให้เกิดความคิดเห็นและการถกเถียงมากมายเกี่ยวกับทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ทางแยก

“รถเมอร์เซเดสขับเหมือนเบรกแตก รถบรรทุกก็ไม่น้อยหน้า ใกล้ถึงทางแยกมีลูกระนาดชะลอความเร็วแต่ก็ยังขับเร็ว โชคดีที่ทั้งสองคันเบรกทัน หวังว่าคนขับทั้งสองจะได้บทเรียนที่น่าจดจำเพื่อไม่ให้เกิดสถานการณ์แบบนี้อีกในอนาคต” ชาวเน็ตคนหนึ่งแสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันวนเวียนอยู่กับคำถามว่าใครถูกใครผิดในสถานการณ์นี้ แต่ทุกคนเห็นพ้องกันในสิ่งหนึ่ง: คนขับทั้งสองประมาทและขาดสมาธิเกินไปเมื่อเข้าใกล้ทางแยก เหตุการณ์นี้เป็นอีกครั้งที่ส่งเสียงเตือนถึงความสำคัญของการปฏิบัติตามกฎจราจรและขับขี่อย่างปลอดภัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่จุดตัดที่มีความเสี่ยงสูง

ประสบการณ์ขับขี่ปลอดภัยผ่านทางแยกสำหรับผู้ขับขี่ทุกคน

เพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์อันตรายเช่นเดียวกับเหตุการณ์ “เมอร์เซเดสชนรถบรรทุก” ที่เพิ่งเกิดขึ้น การเตรียมความรู้และทักษะการขับขี่อย่างปลอดภัยผ่านทางแยกจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง ด้านล่างนี้คือประสบการณ์อันมีค่าที่ผู้ขับขี่ทุกคน โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถบรรทุก ควรจดจำ:

1. ลดความเร็ว – หลักการทองคำ

ไม่ว่าคุณจะขับรถเมอร์เซเดสหรือรถบรรทุกหนัก การลดความเร็วเมื่อเข้าใกล้ทางแยกถือเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก แม้ว่าคุณจะกำลังขับรถบนถนนที่มีสิทธิ์ทางจราจรก่อน การลดความเร็วจะช่วยให้คุณมีเวลามากขึ้นในการสังเกตและตอบสนองต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น สำหรับรถบรรทุก เนื่องจากน้ำหนักมากและแรงเฉื่อยสูง การลดความเร็วแต่เนิ่นๆ และค่อยเป็นค่อยไปจึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้นเพื่อความปลอดภัย

2. มีสมาธิในการสังเกต – ไม่พลาดรายละเอียด

เมื่อเตรียมเข้าสู่ทางแยก ผู้ขับขี่ต้องมีสมาธิสูงและสังเกตอย่างละเอียดทั้งสองทิศทางของถนนที่ตัดกัน ตามหลักการจราจรในประเทศไทย อันตรายมักแฝงตัวมาจากทางซ้ายก่อน ดังนั้น ให้ให้ความสำคัญกับการสังเกตทางซ้ายก่อน แล้วจึงค่อยสังเกตทางขวา สำหรับรถบรรทุก เนื่องจากขนาดใหญ่และมีจุดบอดจำนวนมาก การสังเกตจึงต้องระมัดระวังและครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งยานพาหนะขนาดเล็ก เช่น รถจักรยานยนต์ รถจักรยาน ที่อาจเคลื่อนที่อยู่ในจุดบอด

3. ระวัง “จุดบอด” – แหล่งอันตรายซ่อนเร้น

“จุดบอด” คือบริเวณที่บดบังสายตาซึ่งกระจกมองข้างไม่สามารถครอบคลุมได้ ที่ทางแยก จุดบอดอาจถูกบดบังด้วยปัจจัยหลายประการ เช่น ต้นไม้ บ้านเรือนริมถนน หรือยานพาหนะอื่นๆ ที่กำลังเคลื่อนที่ขนานกัน หากทัศนวิสัยถูกจำกัด ผู้ขับขี่ต้องลดความเร็วให้ช้าลงกว่าเดิม หรือแม้แต่แตะเบรกเพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน ห้ามเสี่ยงข้ามทางแยกโดยเด็ดขาดหากยังไม่ได้สังเกตเห็นทั้งสองทิศทางอย่างชัดเจน

4. ให้ทางตามกฎหมาย – วัฒนธรรมการจราจร

พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 71 กำหนดไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับลำดับความสำคัญในการสัญจรผ่านทางแยก ผู้ขับขี่ต้องเข้าใจและปฏิบัติตามกฎการให้ทางอย่างเคร่งครัดเพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงการจราจรติดขัด

  • ทางแยกที่ไม่มีวงเวียน: ให้ทางแก่รถที่มาจากทางขวา
  • ทางแยกที่มีวงเวียน: ให้ทางแก่รถที่มาจากทางซ้าย
  • ทางแยกระหว่างทางโทและทางเอก: รถที่มาจากทางโทต้องให้ทางแก่รถที่สัญจรบนทางเอก ไม่ว่าทิศทางใด

นอกจากนี้ ผู้ขับขี่ยังต้องให้ทางแก่คนเดินเท้าและยานพาหนะอื่นๆ ที่มาถึงทางแยกก่อน วัฒนธรรมการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และการปฏิบัติตามกฎจราจรเป็นปัจจัยสำคัญในการรับประกันความปลอดภัยสำหรับตนเองและผู้อื่น

เหตุการณ์ “เมอร์เซเดสชนรถบรรทุก” ที่จังหวัดวินห์ฟุกเป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับพวกเราทุกคน โปรดยกระดับจิตสำนึกในการขับขี่อย่างปลอดภัย ปฏิบัติตามกฎจราจร และเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่เมื่อเข้าร่วมการจราจร เพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุที่ไม่น่าเกิดขึ้น

Comments

No comments yet. Why don’t you start the discussion?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *