การใช้งานรถบรรทุกไฟฟ้าอย่างถูกวิธีช่วยยืดอายุเครื่องยนต์และประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มาเรียนรู้วิธีใช้และบำรุงรักษารถบรรทุก Euro 4 เครื่องยนต์ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพกับ Xe Tải Mỹ Đình
เครื่องยนต์ D4GA มาตรฐาน EURO4
ตั้งแต่ปี 2018 คำว่า “รถบรรทุก Euro 4” ได้กลายเป็นที่นิยม แล้วรถบรรทุก Euro 4 คืออะไร และวิธีขับรถบรรทุกไฟฟ้าเป็นอย่างไร?
รถบรรทุก Euro 4 ติดตั้งเครื่องยนต์ที่ได้มาตรฐานการปล่อยไอเสีย Euro 4 หมายความว่าปริมาณไอเสีย (ควัน) ที่ปล่อยออกมาเมื่อเครื่องยนต์ทำงานต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด เครื่องยนต์ Euro 4 มักจะเป็นเครื่องยนต์ไฟฟ้า (คันเร่งไฟฟ้า, ปั๊มแรงดันสูงไฟฟ้า, หัวฉีดไฟฟ้า) และส่วนใหญ่มีเทอร์โบชาร์จเจอร์สำหรับเครื่องยนต์ดีเซล เครื่องยนต์เทอร์โบติดตั้งเพิ่มเติมระบบหมุนเวียนไอเสีย (EGR) และระบบบำบัดไอเสียที่ท่อไอเสีย (DOC, DPF)
ทำอย่างไรให้เครื่องยนต์ Euro 4 ทนทาน?
เครื่องยนต์ไฟฟ้าของ Hyundai ได้รับการใช้งานอย่างแพร่หลายในรถบรรทุกขนาดใหญ่ เช่น รถบรรทุกหนัก รถหัวลาก Hyundai… และในรถบรรทุกขนาดเล็ก H100 1 ตัน เครื่องยนต์เหล่านี้ได้รับการประเมินว่ามีความทนทานมาก โดยมีความสามารถในการทำงานที่เสถียรนานถึง 5-7 ปี
รถบรรทุกและรถโดยสาร Hyundai ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2018 ได้รับการรับประกัน 3 ปี ซึ่งนานกว่าระยะเวลารับประกัน 2 ปีของยี่ห้ออื่น
อย่างไรก็ตาม เพื่อให้เครื่องยนต์ Euro 4 ทนทานและรับประกันตามเงื่อนไขการรับประกัน คุณต้องใส่ใจกับประเด็นต่อไปนี้:
1. ระบบหล่อลื่น (น้ำมันเครื่อง)
- ไส้กรองน้ำมันเครื่อง: ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่องของแท้เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ ไส้กรองน้ำมันเครื่องคุณภาพต่ำอาจทำให้เกิดการอุดตัน ทำให้สิ่งสกปรกเข้าไปในเครื่องยนต์และทำให้เกิดความเสียหาย
- น้ำมันเครื่อง: ใช้น้ำมันเครื่องที่มีเกรดตั้งแต่ CI-4 ขึ้นไป เหมาะสำหรับเครื่องยนต์ไฟฟ้า ควรซื้อน้ำมันเครื่องที่ตัวแทนจำหน่ายที่เชื่อถือได้เพื่อรับการรับประกัน
2. ระบบเชื้อเพลิง
- ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงให้ถูกประเภท: ใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่ได้มาตรฐาน E4 หลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันเชื้อเพลิง E2 เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเครื่องยนต์
- บำรุงรักษาระบบเชื้อเพลิง: เมื่อซื้อรถใหม่ ควรเติมน้ำมันเครื่องประมาณ 1 ลิตรลงในถังน้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อหล่อลื่นหัวฉีดและปั๊มแรงดันสูง ควรเปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงตามระยะเวลาที่กำหนดของบริษัท (Hyundai คือ 20,000 กม./ครั้ง) และใช้ไส้กรองของแท้ ทำความสะอาดถังน้ำมันประมาณ 80,000 กม./ครั้ง และระบายน้ำในไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงเป็นประจำทุก 4 สัปดาห์เพื่อกำจัดน้ำและสิ่งสกปรกที่เป็นอันตรายต่อหัวฉีดและปั๊มแรงดันสูง
3. ระบบระบายความร้อน (น้ำยาหล่อเย็น)
- บรรทุกน้ำหนักให้ถูกต้อง: หลีกเลี่ยงการบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดเพื่อไม่ให้เครื่องยนต์ร้อนเกินไป ส่งผลกระทบต่อระบบระบายความร้อนและทำให้เกิดการสึกหรอของชิ้นส่วนโลหะ
- ใช้น้ำยาหล่อเย็นคุณภาพ: ซื้อน้ำยาหล่อเย็นที่สถานีบริการที่ได้รับอนุญาตของแท้เพื่อให้มั่นใจในคุณภาพ ใช้น้ำยาหล่อเย็นชนิดพิเศษสีเขียว ผสมในอัตราส่วน 70/30 หากบรรทุกน้ำหนักเกินพิกัดบ่อยครั้ง และ 50/50 หากบรรทุกน้ำหนักถูกต้อง น้ำยาหล่อเย็นช่วยป้องกันเครื่องยนต์จากสนิม หมุนเวียนน้ำได้ดีขึ้น ระบายความร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการเดือดของน้ำและแข็งตัว
4. การป้องกันเทอร์โบ
- สตาร์ทเครื่องยนต์: หลังจากสตาร์ทเครื่องยนต์ ไม่ควรกดคันเร่งแรงทันที แต่ควรรอประมาณ 2 นาทีเพื่อให้ระบบหล่อลื่นทำงานได้อย่างเสถียร แล้วจึงเร่งเครื่องหรือขับรถ
- ดับเครื่องยนต์: ก่อนดับเครื่องยนต์ ควรปล่อยให้เครื่องยนต์เดินเบา (รอบเดินเบา) ประมาณ 1 นาทีเพื่อให้เทอร์โบชะลอความเร็วรอบ หลีกเลี่ยงการดับเครื่องยนต์กะทันหันเมื่อเทอร์โบกำลังหมุนด้วยความเร็วสูงเพื่อให้มั่นใจว่าระบบหล่อลื่นยังคงทำงานอยู่ ป้องกันเทอร์โบเสียหายเนื่องจากขาดน้ำมันหล่อลื่น