เหตุการณ์สุดสลดใจเมื่อพบศพ 39 ร่างในรถบรรทุกที่เอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ ในเดือนตุลาคม 2562 สร้างความตกตะลึงไปทั่วโลก คำถาม “39 ศพในรถบรรทุกที่อังกฤษอยู่ที่ไหน” กลายเป็นฝันร้าย ไม่ใช่แค่สถานที่เกิดเหตุโศกนาฏกรรม แต่ยังเป็นความเจ็บปวดรวดร้าวต่อชะตากรรมอันน่าเศร้าของผู้ย้ายถิ่นฐาน และด้านมืดเบื้องหลังความฝันที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นในต่างแดน ท่ามกลางความตกใจและเสียใจอย่างสุดซึ้ง คุณเหงียน ทันห์ เล ผู้เป็นพ่อชาวเวียดนามจากเดียนโจว์ จังหวัดเหงะอาน แบกรับความกังวลว่าเหงียน วัน ฮุง ลูกชายที่หายตัวไประหว่างเดินทางไปอังกฤษ อาจเป็นหนึ่งในเหยื่อเคราะห์ร้ายเหล่านั้น
โศกนาฏกรรม 39 ศพ: ตะลึงไปทั่วอังกฤษและโลก
วันที่ 23 ตุลาคม 2562 ตำรวจมณฑลเอสเซกซ์ ประเทศอังกฤษ พบศพ 39 ร่างในตู้คอนเทนเนอร์ของรถบรรทุก ณ เขตอุตสาหกรรมวอเตอร์เกลด เมืองเกรย์ส มณฑลเอสเซกซ์ ทางตะวันออกของลอนดอน สถานที่พบรถบรรทุกคือบริเวณทางตะวันออกของท่าเรือเพอร์ฟลีต ซึ่งเป็นจุดค้าขายที่พลุกพล่านบนแม่น้ำเทมส์ เหตุการณ์นี้กลายเป็นหนึ่งในคดีฆาตกรรมหมู่ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อังกฤษ ดึงดูดความสนใจจากสื่อและสาธารณชนทั่วโลก
คุณเหงียน ทันห์ เล มองภาพถ่ายลูกชาย เหงียน วัน ฮุง ในโทรศัพท์ด้วยความกังวลใจ หวังว่าลูกชายจะไม่ได้อยู่ใน 39 ศพที่พบในรถบรรทุกที่อังกฤษ
คุณเหงียน ทันห์ เล มองภาพถ่ายลูกชาย เหงียน วัน ฮุง ในโทรศัพท์ด้วยความกังวลใจ หวังว่าลูกชายจะไม่ได้อยู่ใน 39 ศพที่พบในรถบรรทุกที่อังกฤษ
ทันทีที่ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ถูกเปิดเผย นักสืบชาวอังกฤษได้เร่งดำเนินการเพื่อระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตและหาสาเหตุของโศกนาฏกรรม ในขณะเดียวกัน รัฐบาลเวียดนามก็ประสานงานกับฝ่ายอังกฤษอย่างรวดเร็วเพื่อตรวจสอบข้อมูล โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีความกังวลว่าผู้เสียชีวิตอาจเป็นชาวเวียดนาม นายกรัฐมนตรีเหงียน ซวน ฟุก สั่งการให้กระทรวงความมั่นคงสาธารณะและกระทรวงการต่างประเทศเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง แสดงให้เห็นถึงความห่วงใยอย่างลึกซึ้งของรัฐต่อพลเมืองเวียดนามในต่างประเทศ
ความเจ็บปวดของผู้เป็นพ่อ: ตามหาลูกในโศกนาฏกรรม
ในขณะที่การสืบสวนและการระบุตัวตนของผู้เสียชีวิตกำลังดำเนินไปอย่างเร่งด่วน ครอบครัวชาวเวียดนามหลายพันครอบครัวใช้ชีวิตอยู่ด้วยความกังวลใจและหวาดหวั่น คุณเหงียน ทันห์ เล จากเดียนโจว์ จังหวัดเหงะอาน ก็เป็นหนึ่งในนั้น เหงียน วัน ฮุง ลูกชายของเขา ขาดการติดต่อกับครอบครัวตั้งแต่วันที่ 21 ตุลาคม ระหว่างการเดินทางที่คาดว่าจะไปอังกฤษจากฝรั่งเศส
คุณเล่เปิดเผยกับ VOA ว่าครั้งสุดท้ายที่เขาคุยกับลูกชายคือวันที่ 21 ตุลาคม ฮุงบอกว่าจะนั่ง “แท็กซี่” ไปอังกฤษ ข้อมูลนี้ทำให้ครอบครัวของเขากังวลอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์ 39 ศพในรถบรรทุกที่อังกฤษ ครอบครัวของเขาส่งรูปถ่ายและข้อมูลส่วนตัวของฮุง พร้อมตัวอย่าง DNA ของญาติให้หน่วยงานราชการเพื่อสนับสนุนกระบวนการระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต
การเดินทางแสนยากลำบากสู่อังกฤษ
เหงียน วัน ฮุง ออกจากเวียดนามเมื่อเกือบหนึ่งปีที่แล้ว ผ่านการเดินทางที่ยาวนานและเต็มไปด้วยความเสี่ยงเพื่อไปยังฝรั่งเศสผ่านรัสเซีย ตามคำบอกเล่าของคุณเล่ ฮุงตัดสินใจไปทำงานต่างประเทศเพราะสถานการณ์ครอบครัวยากจน พ่อแม่แก่ชราและเจ็บป่วย ตัวฮุงเองก็เคยเรียนดนตรีที่วิทยาลัยดนตรีเว้ แต่หางานที่มั่นคงในประเทศไม่ได้
ในฝรั่งเศส ฮุงทำงานในร้านอาหาร งานหนักและรายได้ไม่สูง ด้วยความปรารถนาที่จะหางานที่เบากว่าและมีรายได้ดีกว่า ฮุงตัดสินใจไปอังกฤษตามคำแนะนำของเพื่อนๆ เกี่ยวกับอาชีพทำเล็บ ครอบครัวของคุณเล่ต้องกู้เงินจากธนาคาร 400 ล้านดอง เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้ลูกชายไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งเป็นเงินจำนวนไม่น้อยสำหรับครอบครัวเกษตรกรยากจน
เหงะอาน: บ้านเกิดแห่งความฝันที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้น
เหงะอาน บ้านเกิดของคุณเล่และเหงียน วัน ฮุง เป็นหนึ่งในจังหวัดที่ยากจนที่สุดในเวียดนาม สภาพการขาดแคลนงานและรายได้ต่ำทำให้ชาวเหงะอานจำนวนมากมองหาโอกาสที่จะมีชีวิตที่ดีขึ้นในต่างประเทศ ยอมรับเส้นทางการย้ายถิ่นฐานที่เต็มไปด้วยความเสี่ยง ตามที่คุณเล่กล่าว ชาวเหงะอานจำนวนมากออกจากบ้านเกิดไปทำงานต่างถิ่น เพราะ “งานในเวียดนามเงินเดือนน้อยไม่พอเลี้ยงชีพ”
เหงะอานยังเป็นหนึ่งในจุดที่ร้อนแรงของปัญหาการค้ามนุษย์ ซึ่งเหยื่อจำนวนมากถูกนำตัวไปต่างประเทศและกลายเป็นแรงงานบังคับ ตามรายงานของ Pacific Links Foundation สภาพเศรษฐกิจที่ยากลำบากและการขาดโอกาสในการทำงานผลักดันให้ชาวบ้านจำนวนมากเข้าสู่เส้นทางการย้ายถิ่นฐานที่ผิดกฎหมาย กลายเป็นเหยื่ออันโอชะของขบวนการค้ามนุษย์
การสืบสวนและการระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต
เหตุการณ์ 39 ศพในรถบรรทุกที่อังกฤษ ไม่ใช่แค่โศกนาฏกรรมด้านมนุษยธรรม แต่ยังส่งเสียงเตือนถึงสถานการณ์การย้ายถิ่นฐานที่ผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์ รัฐบาลอังกฤษเคยประกาศว่าประมาณ 70% ของกรณีการลักลอบพาชาวเวียดนามเข้าอังกฤษตั้งแต่ปี 2552 ถึง 2559 เป็นไปเพื่อแสวงหาผลประโยชน์จากแรงงาน รวมถึงการผลิตกัญชาและการทำงานในร้านทำเล็บ
ท่ามกลางความเศร้าโศกและความตกใจ คุณเหงียน ทันห์ เล ยังคงมีความหวังลมๆ แล้งๆ ว่าลูกชายของเขาจะไม่ได้อยู่ใน 39 เหยื่อเหล่านั้น เขาและครอบครัวทำได้เพียงรอคอยและอธิษฐาน ภาวนาว่าปาฏิหาริย์จะเกิดขึ้นและเหงียน วัน ฮุง ยังคงปลอดภัยอยู่ที่ไหนสักแห่ง คำถาม “39 ศพในรถบรรทุกที่อังกฤษอยู่ที่ไหน” ยังคงอยู่ แต่ความเจ็บปวดและความสูญเสียได้แพร่กระจายไปทั่ว ตอกย้ำให้เราเห็นถึงคุณค่าของชีวิตมนุษย์และความจำเป็นที่จะต้องมีแนวทางแก้ไขปัญหาการย้ายถิ่นฐานทั่วโลกที่เป็นมนุษยธรรมมากขึ้น